เปิดม่านความลวง เผยกระบวนการบิดเบือนภาพ เพื่อทำลาย อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล และสายธรรมเตโชวิปัสสนา
เปิดม่านความลวง เผยกระบวนการบิดเบือนภาพ
และบทความเพื่อทำลายกัน
....
อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล ประกาศพึ่งศาลอาญาดำเนินคดีอดีตศิษย์
มีเจตนาทำลายอาจารย์อัจฉราวดีและสายธรรมเตโชวิปัสสนา
....
อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล แถลงข่าวเผยขบวนการทำลายชื่อเสียง บิดเบือนความจริง เพื่อมุ่งทำลายความเชื่อถือในตัวท่านและสายธรรม เป็นเหตุมาจากกรณีการทำแคมเปญ “หยุดอลัชชี” ที่ถูกกลุ่มผู้เสียประโยชน์ ออกมาบิดเบือนข้อมูลมากมาย และมีอดีตลูกศิษย์เข้ามาผสมโรง โดยเลือกเจาะจงนำภาพในกิจของสายธรรม ไปใช้และเติมคำเพื่อชี้นำในมุมที่ทำให้คนหลงคิดว่าท่านพยายามทำตัวอยู่เหนือสงฆ์ อีกทั้งยังกล่าวเท็จอย่างไม่มีความละอายว่า ท่านเรียกเก็บเงินบริจาคเพื่อให้ผู้มาปฏิบัติเตโชวิปัสสนาหากบริจาคเงินมากจะได้รับการประกาศสถานะอริยบุคคล
ท่านอาจารย์กล่าวว่า “เป็นการกล่าวเท็จที่เลวทรามที่สุด เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามสายธรรมเตโชวิปัสสนา ทำให้ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อการพ้นทุกข์ถูกดูแคลน” ท่านปฏิเสธการกระทำดังกล่าวพร้อมประกาศฟ้องศาลอาญา กลุ่มบุคคลผู้กล่าวคำเท็จด้วยความอาฆาตมาดร้าย มีเจตนาทำให้ท่านและสายธรรมเสียหาย ท่านจึงต้องออกมาปกป้องสายธรรมและผู้บริสุทธิ์ที่อุทิศปกป้องพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศิษย์ที่ปฏิบัติในสายธรรม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐานแก่สังคมและไม่ใช้คำว่าปล่อยวาง ให้กลายเป็นปล่อยปละละเลย
ท่านกล่าวว่า ท่านไม่ชอบดูละครเรื่องดาวพระศุกร์ แต่ชอบเรื่อง เป้าบุ้นจิ้น
ท่านอาจารย์ได้กล่าวยกมือไหว้ขอขมาต่อพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในคำเขียนรณรงค์ "หยุดอลัชชี" ว่าอาจแรงไปโดยเฉพาะคำว่า "พระค่อนประเทศ" ทั้งนี้มีเจตนาบริสุทธิ์ที่ปลุกจิตให้ฝั่งสงฆ์และฆราวาสตื่นมาช่วยแก้ไขความเสื่อม และกล่าวว่า ขอให้อลัชชีทั้งหลาย สึกออกมาเป็นฆราวาส เพื่อหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา
การนี้ท่านยังได้แสดงบัญชีที่มาของการได้รับบริจาค การใช้จ่ายเงินของมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า อย่างโปร่งใสว่า ไม่ใช่นำไปใช้ในเรื่องพาณิชย์ แต่นำไปเป็นค่าเช่าบิลบอร์ดรณรงค์ให้ชาวต่างชาติรู้หลักปฏิบัติต่อสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ไม่ลบหลู่และไม่นำสัญลักษณ์ไปใช้เป็นของตกแต่ง
.
ท้ายนี้ ท่านขอให้สังคมอย่าหลงเชื่อข้อมูลใดๆ ที่ผ่านตาโดยขาดการพิจารณา หาไม่แล้วเราจะตกเป็นเหยื่อการทำลายผู้บริสุทธิ์ ผู้ทำคุณให้แก่พระพุทธศาสนา จะก่อบาปกรรมให้แก่ตน
...
ประเด็นที่ถูกกล่าวหาและถูกเผยไปในสังคมวงกว้างคือ
1. ทำตัวเหนือกว่าสงฆ์ สงฆ์ต้องมาเคารพอาจารย์
2. บอกคนไม่ต้องไปวัด สร้างกระแสลดคุณค่าของพระและวัด
3. สอนธรรมผิด สิ่งที่สอนไม่มีในพระไตรปิฎก
4. อวดอุตริ
5. ไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก
6. การรับบริจาคเงินเพื่อการพาณิชย์ ขอตรวจสอบบัญชีการรับจ่ายของมูลนิธิ โนอิ้ง บุดด้า อ.อัจฉราวดี พร้อมแถลงข้อสงสัยทุกประเด็น โดยส่วนที่มีศัพท์ทางธรรม ขอชี้แจงไว้ 4 กรณี ดังนี้
........
1. ประเด็นบิดเบือนคำสอน ไม่มีชื่อคำว่า "เตโชวิปัสสนา" ไม่ใช่วิปัสสนาตามหลักคำสอน
..
ตอบ เตโชวิปัสสนา เป็นการปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐานสี่ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนทุกประการ
คำว่าเทคนิค ก็เหมือนคำว่า พุทโธ ยุบหนอพองหนอ คำเหล่านี้ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่เป็นเทคนิควิธีให้เข้าถึงการปฏิบัติสมาธิ
..
2. กล่าวอวดว่า “ฆราวาสบรรลุธรรมได้”
ตามการบันทึกในพระไตรปิฎกในสมัยพุทธกาล มีผู้บรรลุธรรมทุกลำดับขั้นมากมาย โดยนางวิสาขา บรรลุโสดาบันตั้งแต่ 7 ขวบท่านอนาถบิณฑกเศรษฐี บรรลุขั้นโสดาบัน ท่านหมอชีวกโกมารพัตร์ บรรลุขั้นสกิทาคามี
สำหรับในยุคปัจจุบัน มี คุณแม่จันดี โลหิตดี น้องของหลวงตามหาบัว หลวงปู่บุดดา ถาวโร ก็ยืนยันว่า ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ก็บรรลุธรรมได้ทั้งนั้น ไม่ได้อยู่ที่ผม
..
3. ข้อที่ว่า บอกว่าไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก
ไม่เคยพูด มีแต่บอกว่า อย่าติดตำรา ตราบใดที่ยังไม่ลงมือปฏิบัติ ตำราเป็นเพียงการชี้แนวทาง พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงด้วยการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ เพ่งลงมาที่จิต ไม่ได้ทรงท่องตำราเอาเป็นเอาตาย พระไตรปิฎกเป็นเพียงแนวทาง เมื่อปฏิบัติลงมาที่จิตแล้วจะรู้แจ้ง และเมื่อเอาความรู้นั้นมาสอบทานกับพระไตรปิฎก จะเห็นว่าไม่ผิดกันเลยหากการบันทึกนั้นไม่บิดเบือน
4. เรื่องการตั้งลัทธิ
ท่านกล่าวว่า ท่านประกาศตนเป็นพุทธสาวกของพระพุทธเจ้า และการสอนใดๆ ก็เป็นไปตามคำสอน
ของพระองค์ทุกประการ ไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น การกล่าวหาเช่นนี้เป็นกรณีคลาสิค ในการใช้ทำลายสายธรรมที่มีผู้ศรัทธามากและเติบโตอย่างรวดเร็ว ท่านย้ำว่า ท่านไม่ใช่ธรรมกาย ท่านทำงานถวายใต้ฝ่าพระบาทพระบรมศาสดา
การออกมาแถลงข่าวเผยความจริงก็เป็นการแนะนำจากสำนักพระพุทธศาสนา ที่เมื่อตรวจสอบแล้วก็ได้พบความจริงว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติไปตามที่ถูกกล่าวหา
...............
เชิญรับชมวิดิโอที่เผยในงานแถลงข่าววันนี้ (27 ม.ค.'61)
และบทความเพื่อทำลายกัน
....
อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล ประกาศพึ่งศาลอาญาดำเนินคดีอดีตศิษย์
มีเจตนาทำลายอาจารย์อัจฉราวดีและสายธรรมเตโชวิปัสสนา
....
อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล แถลงข่าวเผยขบวนการทำลายชื่อเสียง บิดเบือนความจริง เพื่อมุ่งทำลายความเชื่อถือในตัวท่านและสายธรรม เป็นเหตุมาจากกรณีการทำแคมเปญ “หยุดอลัชชี” ที่ถูกกลุ่มผู้เสียประโยชน์ ออกมาบิดเบือนข้อมูลมากมาย และมีอดีตลูกศิษย์เข้ามาผสมโรง โดยเลือกเจาะจงนำภาพในกิจของสายธรรม ไปใช้และเติมคำเพื่อชี้นำในมุมที่ทำให้คนหลงคิดว่าท่านพยายามทำตัวอยู่เหนือสงฆ์ อีกทั้งยังกล่าวเท็จอย่างไม่มีความละอายว่า ท่านเรียกเก็บเงินบริจาคเพื่อให้ผู้มาปฏิบัติเตโชวิปัสสนาหากบริจาคเงินมากจะได้รับการประกาศสถานะอริยบุคคล
ท่านอาจารย์กล่าวว่า “เป็นการกล่าวเท็จที่เลวทรามที่สุด เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามสายธรรมเตโชวิปัสสนา ทำให้ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาเพื่อการพ้นทุกข์ถูกดูแคลน” ท่านปฏิเสธการกระทำดังกล่าวพร้อมประกาศฟ้องศาลอาญา กลุ่มบุคคลผู้กล่าวคำเท็จด้วยความอาฆาตมาดร้าย มีเจตนาทำให้ท่านและสายธรรมเสียหาย ท่านจึงต้องออกมาปกป้องสายธรรมและผู้บริสุทธิ์ที่อุทิศปกป้องพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศิษย์ที่ปฏิบัติในสายธรรม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐานแก่สังคมและไม่ใช้คำว่าปล่อยวาง ให้กลายเป็นปล่อยปละละเลย
ท่านกล่าวว่า ท่านไม่ชอบดูละครเรื่องดาวพระศุกร์ แต่ชอบเรื่อง เป้าบุ้นจิ้น
ท่านอาจารย์ได้กล่าวยกมือไหว้ขอขมาต่อพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในคำเขียนรณรงค์ "หยุดอลัชชี" ว่าอาจแรงไปโดยเฉพาะคำว่า "พระค่อนประเทศ" ทั้งนี้มีเจตนาบริสุทธิ์ที่ปลุกจิตให้ฝั่งสงฆ์และฆราวาสตื่นมาช่วยแก้ไขความเสื่อม และกล่าวว่า ขอให้อลัชชีทั้งหลาย สึกออกมาเป็นฆราวาส เพื่อหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา
การนี้ท่านยังได้แสดงบัญชีที่มาของการได้รับบริจาค การใช้จ่ายเงินของมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า อย่างโปร่งใสว่า ไม่ใช่นำไปใช้ในเรื่องพาณิชย์ แต่นำไปเป็นค่าเช่าบิลบอร์ดรณรงค์ให้ชาวต่างชาติรู้หลักปฏิบัติต่อสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ไม่ลบหลู่และไม่นำสัญลักษณ์ไปใช้เป็นของตกแต่ง
.
ท้ายนี้ ท่านขอให้สังคมอย่าหลงเชื่อข้อมูลใดๆ ที่ผ่านตาโดยขาดการพิจารณา หาไม่แล้วเราจะตกเป็นเหยื่อการทำลายผู้บริสุทธิ์ ผู้ทำคุณให้แก่พระพุทธศาสนา จะก่อบาปกรรมให้แก่ตน
...
ประเด็นที่ถูกกล่าวหาและถูกเผยไปในสังคมวงกว้างคือ
1. ทำตัวเหนือกว่าสงฆ์ สงฆ์ต้องมาเคารพอาจารย์
2. บอกคนไม่ต้องไปวัด สร้างกระแสลดคุณค่าของพระและวัด
3. สอนธรรมผิด สิ่งที่สอนไม่มีในพระไตรปิฎก
4. อวดอุตริ
5. ไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก
6. การรับบริจาคเงินเพื่อการพาณิชย์ ขอตรวจสอบบัญชีการรับจ่ายของมูลนิธิ โนอิ้ง บุดด้า อ.อัจฉราวดี พร้อมแถลงข้อสงสัยทุกประเด็น โดยส่วนที่มีศัพท์ทางธรรม ขอชี้แจงไว้ 4 กรณี ดังนี้
........
1. ประเด็นบิดเบือนคำสอน ไม่มีชื่อคำว่า "เตโชวิปัสสนา" ไม่ใช่วิปัสสนาตามหลักคำสอน
..
ตอบ เตโชวิปัสสนา เป็นการปฏิบัติวิปัสสนาตามหลักสติปัฏฐานสี่ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนทุกประการ
คำว่าเทคนิค ก็เหมือนคำว่า พุทโธ ยุบหนอพองหนอ คำเหล่านี้ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่เป็นเทคนิควิธีให้เข้าถึงการปฏิบัติสมาธิ
..
2. กล่าวอวดว่า “ฆราวาสบรรลุธรรมได้”
ตามการบันทึกในพระไตรปิฎกในสมัยพุทธกาล มีผู้บรรลุธรรมทุกลำดับขั้นมากมาย โดยนางวิสาขา บรรลุโสดาบันตั้งแต่ 7 ขวบท่านอนาถบิณฑกเศรษฐี บรรลุขั้นโสดาบัน ท่านหมอชีวกโกมารพัตร์ บรรลุขั้นสกิทาคามี
สำหรับในยุคปัจจุบัน มี คุณแม่จันดี โลหิตดี น้องของหลวงตามหาบัว หลวงปู่บุดดา ถาวโร ก็ยืนยันว่า ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ก็บรรลุธรรมได้ทั้งนั้น ไม่ได้อยู่ที่ผม
..
3. ข้อที่ว่า บอกว่าไม่ให้เชื่อพระไตรปิฎก
ไม่เคยพูด มีแต่บอกว่า อย่าติดตำรา ตราบใดที่ยังไม่ลงมือปฏิบัติ ตำราเป็นเพียงการชี้แนวทาง พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเห็นจริงด้วยการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ เพ่งลงมาที่จิต ไม่ได้ทรงท่องตำราเอาเป็นเอาตาย พระไตรปิฎกเป็นเพียงแนวทาง เมื่อปฏิบัติลงมาที่จิตแล้วจะรู้แจ้ง และเมื่อเอาความรู้นั้นมาสอบทานกับพระไตรปิฎก จะเห็นว่าไม่ผิดกันเลยหากการบันทึกนั้นไม่บิดเบือน
4. เรื่องการตั้งลัทธิ
ท่านกล่าวว่า ท่านประกาศตนเป็นพุทธสาวกของพระพุทธเจ้า และการสอนใดๆ ก็เป็นไปตามคำสอน
ของพระองค์ทุกประการ ไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น การกล่าวหาเช่นนี้เป็นกรณีคลาสิค ในการใช้ทำลายสายธรรมที่มีผู้ศรัทธามากและเติบโตอย่างรวดเร็ว ท่านย้ำว่า ท่านไม่ใช่ธรรมกาย ท่านทำงานถวายใต้ฝ่าพระบาทพระบรมศาสดา
การออกมาแถลงข่าวเผยความจริงก็เป็นการแนะนำจากสำนักพระพุทธศาสนา ที่เมื่อตรวจสอบแล้วก็ได้พบความจริงว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติไปตามที่ถูกกล่าวหา
...............
เชิญรับชมวิดิโอที่เผยในงานแถลงข่าววันนี้ (27 ม.ค.'61)
- Category
- Dharma