พญานาคของจริง แม่น้ำโขง

ปรากฏการณ์พญานาคทั้ง 7 แม่น้ำโขง
มาดูกันว่า พญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉานตามที่มนุษย์กำหนดปรุงแต่งให้พวกเขาเป็นหรือไม่?
เหตุใดพวกเขาจึงไม่ใช่และไม่ควรเป็นสัตว์เดรัจฉาน
มีธรรมหรือไม่มีธรรม ตัดสินที่สภาวะจิต หาใช่ตัดสินจากภพภูมิสูงต่ำไม่
มีใครบ้างนะที่จะมีบุญญาธิการเช่นพญานาค คือ ได้มีโอกาสไปแผ่พังพานบังสายฝนให้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนเรียกกันว่า พระนาคปรก คนธรรมดาอย่างเราจะมีบุญบารมีเหมือนพญานาคมุจลินท์หรือเปล่านะ
พญานาคท่านอยู่ใกล้ชิดพระพุทธะโพธิสัตว์มากกว่ามนุษย์เราเสียอีก ท่านชอบรักษาศีลปฏิบัติบำเพ็ญธรรมโดยสัญชาตญาณ และมีคุณธรรม บวชจิต ปกป้องพระพุทธศาสนา ดูแลจิตใจผู้คนที่ใฝ่ดี คุ้มครองคนดีให้พ้นภัย
บ้านไหนมีพญานาค บ้านนั้น จากที่เคยมีครอบครัวแตกแยกทะเลาะเบาะแว้ง พญานาคจะช่วยให้ครอบครัวร่มเย็นสงบสุข การทะเลาะกันเบาบางลงมาก ในบ้านจะมีไอเย็นเหมือนอยู่ใต้น้ำ แม้นอกบ้านจะอากาศร้อนอบอ้าวเพียงใด และทำให้ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน
พญานาคนั้นอยากให้คนปฏิบัติทำความดี มากไปกว่าแค่ศรัทธากราบไหว้บูชาขอพรพวกเขาอย่างงมงาย
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าถึงง่ายที่สุดในยุคนี้ คือ พญานาค หรือ มังกร พญานาคคือญาณทิพย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะพวกเขามีคุณธรรมสูงกว่ามนุษย์หลายคน แม้มนุษย์บางคนได้เกิดกายเป็นคนแล้วได้บวชพระบวชชีแต่จิตใจเป็นเดรัจฉาน ก็เสียชาติเกิด พญานาคไม่ได้บวชแบบมิติมนุษย์แต่จิตพวกเขาพ้นภพภูมิของเดรัจฉานเพราะมีคุณธรรมนั่นเอง
คุณธรรม ทำให้พวกเขาไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน
พระพุทธเจ้าเรียก มนุษย์ว่า ก็เป็นสัตว์โลกชนิดหนึ่ง ถ้าไม่มีคุณธรรม มนุษย์ก็คือ สัตว์เดรัจฉานในกายมนุษย์นั่นเอง หาใช่สัตว์ประเสริฐไม่
มนุษย์มองพญานาคหรือภพภูมิอื่นเพียงที่ภายนอกและยกย่องภพตนดีที่สุด เลิศสุด ทำลายโลกและสรรพชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ ทำให้โลกสกปรกเนี่ยน่ะรึ ที่เรียกว่า ดีที่สุด?? ่เมื่อมนุษย์ไม่ได้ตัดสินพวกเขาที่สภาวะธรรมภายใน มนุษย์จึงตัดสินโง่งมงายว่า พญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉานเหมือน งู หมู หมา กาไก่
แท้จริงแล้ว พญานาคมีสองแบบ คือ งูทั่วไปที่เป็นเดรัจฉาน เป็นทุกข์คติภูมิ มีกายหยาบ ไม่มีคุณธรรม สมสู่ ล่าสัตว์เป็นอาหาร อีกแบบหนึ่งที่มนุษย์เราในหลายวัฒนธรรมกราบไหว้บูชาว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นโอปาติกะสวรรค์ เป็นพวกเทพเจ้างูและมังกรที่เป็นกายทิพย์ อยู่ในสุขคติภูมิ มีศีล มีธรรม มีคุณธรรม มีหิริโอตัปปะ และมีเมตตา เป็นมังสวิรัติ เว้นจากการเบียดเบียนสรรพชีวิต เว้นจากอบายมุข บ้างเป็นพระโพธิสัตว์ บ้างเป็นมหาเทพ พรหมเทวา บ้างเป็นเทวดาเจ้าที่ที่ดูแลแหล่งน้ำบนโลกมนุษย์ บ้างเป็นเทวดาจำศีลตามป่าเขาถ้ำอย่างสงบ บ้างคำชูพระศาสนา บ้างดูแลดินฟ้าอากาศและฤดูกาล บ้างมีหน้าที่จัดสรรภัยพิบัติไปตามกฏแห่งกรรม หน้าทีที่ทรงเกียรติที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้
ดังนั้น มนุษย์ผู้มองพญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน กำหนดให้นาคอยู่ต่ำ ตนอยู่สูง คือ มนุษย์ที่ไม่เคยเห็นกิเลสหรือความเป็นเดรัจฉานของตัวเองแต่หลงใหลในสังขารอันเน่าเหม็นของตัวเอง หยิ่งยะโสโอหัง หลอกตนเองว่าตนไม่ใช่เดรัจฉานทั้งที่ต้องกิน ถ่ายของเสีย สมสู่ แพร่พันธ์ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ส่วนจิตใจก็เต็มไปด้วยโมหะ คือ ความหลงผิด ทำบาปอกุศลไปมาก ทั้งทำลายธรรมชาติ ทำลายชีวิตสรรพสัตว์ แต่หากมีคุณธรรม ก็ค่อยดูดีขึ้นมาหน่อยในความเป็นสัตว์ประเสริฐ
ธรรมะตัดสินหรือเปรียบเทียบสูงต่ำที่สภาวะจิต ไม่ใช่ตัดสินที่ภพภมิ มนุษย์ที่ไม่มีคุณธรรมหรือศีลธรรม ก็คือ จิตเดรัจฉานในร่างกายของมนุษย์ ล้วนแต่ไม่มีศีลธรรมเช่นพญานาคได้ ทำให้มนุษย์ที่มีใจบาป เมื่อเสียชีวิตลง จิตที่มีสภาวะเดรัจฉานหรือโมหะ ก็จะมีพลังบาปนำพาไปเกิดในอบายภูมิทั้งสี่คือ นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน
ใครที่ดูถูกสภาวะธรรมของพญานาค จะไม่มีวันได้รับความสนใจหรือรับรู้จากพญานาคได้เลย แม้จะลบหลู่พิสูจน์เป็นล้านครั้ง พญานาคก็จะไม่สนใจหรือมาให้พิสูจน์ใดๆได้สำเร็จ คือ ยิ่งท้าพิสูจน์ด้วยใจอคติอวดดีอวดรู้ ยิ่งไม่เข้าถึงท่าน